TEXT
READER

เป็นวัดสักการะลำดับที่ 14 ของ 33 วัดคันนงภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ที่บริเวณจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั้งทะเลสาบบิวะโคะ และบริเวณเมืองโอซึ เป็นสถานที่ที่นักเขียนและนักวาดภาพต่างๆนิยมมากันตั้งแต่ในสมัยอดีต
โบสถ์พระโพธิสัตว์ เป็นอาคารใจกลางของโบสถ์สักการะนันอิน มีการเล่าต่อกันมาว่า เป็นโบสถ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อภาวนาอธิษฐานในเรื่องสุขภาพให้กับองค์จักรพรรดิโกะซังโจ ในปีที่ 4 ของรัชสมัยเอนคิว (ค.ศ. 1072) และหลังจากที่ย้ายมา ณ สถานที่ปัจจุบันก็เคยถูกไฟไหม้ และมีการสร้างขึ้นใหม่ในปีที่ 2 ของรัชสมัยเกนโระคุ (ค.ศ. 1689) มีพระประธานคือพระจินดามณีจักรโพธิสัตว์ในท่านั่งซึ่งได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ และเป็นพระที่ปกติจะไม่เปิดตู้ให้ชม จะเปิดให้ชมแค่ในทุก 33 ปีเท่านั้น
ภายในประกอบด้วยวิหาร “โชโด” ที่มีพระประธานประดิษฐานอยู่ และวิหาร “ไรโด” ที่เป็นอาคารสักการะชั้นนอก และมีส่วนที่เชื่อมทั้ง 2 วิหารที่เรียกว่า “ไอโนะมะ” ซึ่งเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่มุงหลังคาด้วยกระเบื้องทรงกระบอกและแบบแผ่นสลับกันที่เรียกว่าฮองกะวะระบุคิ ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างสวยงามในสไตล์ของช่วงสมัยเกนโระคุ

“33 วัดคันนงภาคตะวันตกของญี่ปุ่น”

33 วัดที่นับถือพระคันนง(พระโพธิสัตว์)ที่อยู่ใน 6 จังหวัดในแถบคิงคิ และจังหวัดกิฟุ ถือเป็นเส้นทางแสวงบุญที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ในปัจจุบันก็ยังมีคนเป็นจำนวนมากเดินทางมาสักกาะระอยู่ โดยในบันทึก "จิมองโคโซคิ" ซึ่งเป็นบันทึกที่เก่าแก่ที่สุดที่ทำการบันทึกการเดินทางแสวงบุญของพระเกียวซอน(1055~1135) และพระคะคุจู(1118~1177) ซึ่งเป็นพระของวัดมิอิเดระในสมัยเฮอัน โดยวัดมิอิเดระมีบทบาทเป็นอย่างยิ่งในการกำหนด 33 วัดภาคตะวันตกของญี่ปุ่นนี้ เมื่อถึงสมัยมุโระมัจจิ การเดินทางแสวงบุญในภาคตะวันตกนี้ได้แพร่หลายไปสู่ประชาชนทั่วไป จนมีการตั้ง "วัดคัดลอกจากภาคตะวันตก" ในทั่วประเทศเช่น 33 วัดบันโดในแถบคันโต และ 33 วัดชิชิบุ เป็นต้น และในปี 2019 ได้มีการกำหนดให้ "การเดินทางแสวงบุญที่ 33 วัดคันนงภาคตะวันตกของญี่ปุ่น การเดินทางส่งท้ายชีวิตของญี่ปุ่นที่ทำกันต่อเนื่องมา 1300 ปี" เป็นมรดกประเทศญี่ปุ่น

“ทะเลสาบบิวะโคะ”

ทะเลสาบที่เกิดจากรอยเลื่อนที่อยู่กลางจังหวัดชิกะ มีพื้นที่ 670.3 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ระดับความสูงของผิวน้ำ 85 เมตร และมีความลึกสูงสุด 104 เมตร มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง สามารถเก็บน้ำได้เป็นจำนวนมาก จึงสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย เช่น การประปา การชลประธาน การขนส่ง การผลิตไฟฟ้า และการประมง เป็นต้น ในทะเลสาบมีเกาะกลางน้ำ เช่น เกาะโอะคิชิมะ เกาะชิคุบุชิมะ ทะเคะชิมะ เกาะโอะคิโนะชิระอิชิ เป็นต้น (ชิมะ หมายถึง เกาะ) จะมีชื่อเรียกอื่นว่า ทะเลโอมิ ทะเลนิโอะ

“โบสถ์สักการะนันอิน”

โบสถ์สักการะนันอิน

“องค์จักรพรรดิโกะซังโจ”

จักรพรรดิในช่วงกลางของสมัยเฮอัน เป็นพระโอรสคนที่ 2 ของจักรพรรดิโกะซุซะคุ มีชื่อว่า ทะคะฮิโตะ เป็นผู้สยบอำนาจของตระกูลฟุจิวะระ และก่อตั้งหน่วยงานบันทึกเพื่อจัดระเบียบการครอบครองที่ดิน ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงแก้ไขความไม่ถูกต้องทางการปกครองที่มีมาแต่ก่อนหน้านี้ (ครองราชย์ ปีค.ศ. 1068~1072) (1034~1073)

“พระจินดามณีจักรโพธิสัตว์ในท่านั่ง”

พระจินดามณีจักรโพธิสัตว์ในท่านั่ง

รูปปั้นที่มี 1 ใบหน้า และ 6 แขน สร้างจากการประกอบไม้เข้าด้วยกัน(โยะเซะกิ ซึคุริ) ทำดวงตาจากการแกะสลัก เป็นรูปปั้นที่ลงรักปิดทอง
รูปปั้นสวยและสง่างามโดยมีลักษณะใบหน้าที่กลมและเอียงไปทางขวา มือขวามือหนึ่งมีนิ้วแตะอยู่ที่แก้มด้วยด้านหลังมือ อยู่ในท่าที่เข่าด้านขวาตั้งอยู่
มงกุฎขนาดใหญ่ที่แกะเป็นลายฉลุและสร้อยประดับที่สวมอยู่เป็นสิ่งที่ถูกสวมในภายหลัง

“วิหาร “โชโด” และวิหาร “ไรโด” ที่เป็นอาคารสักการะชั้นนอก และมีส่วนที่เชื่อมทั้ง 2 วิหารที่เรียกว่า “ไอโนะมะ””

วิหาร “โชโด” และวิหาร “ไรโด” ที่เป็นอาคารสักการะชั้นนอก และมีส่วนที่เชื่อมทั้ง 2 วิหารที่เรียกว่า “ไอโนะมะ”

“ฮองกะวะระบุคิ”

ฮองกะวะระบุคิ

เป็นวิธีมุงหลังคาสลับกันไปมาด้วยกระเบื้องรูปทรงเว้า และทรงนูน ซึ่งเป็นวิธีมุงหลังคาที่มีประวัติมายาวนานตั้งแต่เริ่มสร้างวัดอะซุคะเดระซึ่งถือเป็นวัดที่มีการสร้างอย่างจริงจังวัดแรกของประเทศญี่ปุ่นในช่วงปลายศตรวรรษที่ 6

สมัยเอะโดะ (ปีที่ 2 ของรัชสมัยเกนโระคุ ค.ศ. 1689)